วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รถนอกค่ายที่แอบปันใจ... BMW 318i





        ตอนเด็ก ๆ ไปโรงเรียนผ่านคลินิคหมอในตัวอำเภอ เจอ BMW จอดหน้าคลินิคทุกเช้า ถ้าไปตอนหมอ
กำลังเปิดคลินิคก็จะพบ BMW คันงามจอดในคลินิค  ตอนกลับจากโรงเรียนขณะที่อยู่บนหลังคารถ
สองแถวมี BMW วิ่งแซงตลอด  ฝันไว้เสมอว่าชั่วชีวิตนี้ต้องมี BMW ขับสักคัน  ตอนพอจะซื้อได้ก็มี
คนแนะนำว่า BMW ค่าซ่อม อะไหล่แพง จุกจิกเรื่องระบบไฟฟ้า  นั่นเป็นเหตุผลที่เลือกซื้อ Benz ก่อน
BMW เมื่อมีโอกาส
        อย่างไรก็ตามตอนนี้มี MB แล้ว โอกาสของ BM(W) ก็ไม่ได้ปิดสนิทเสียทีเดียว

BENZ W201 190E AMG Parts



        เริ่มหลงเสน่ห์เจ้าเบนซ์รุ่นเก่า ๆ ขึ้นมาทุกที คนทั่วไปเค๊าชอบรถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ขับขี่กันให้ปรู๊ดปร๊าด
ไม่ต้องเสี่ยงดับตอนติดไฟแดง หรือตามรถยก ไปทำงานไม่ทันเพราะเจ้าเบนซ์แก่ ๆ เสีย  อาจะเป็นเพราะ
ผมมีรถญี่ปุ่นออกห้างมาคันที่ห้าแล้วเลยอยากลองของเก่ามั๊ง  เสน่ห์รถเบนซ์เก่า ๆ อยู่ที่มันคลาสสิค มี
เสน่ห์นี่เอง ที่สำคัญไม่เคยซ่อมรถเอง อยากจะเป็นช่างฟิตรถยนต์มั่งก็ตอนมีเบนซ์นี่แหละ...
        Benz W201 ที่ผมชอบชอบคือ 190E แต่งด้วย AMG Part รอบคัน ดูแล้วอึ้ง เก่าก็จะเอา เสียก็จะ
ซ่อม  ตอนนี้กำลังมองหาคันที่เครื่องเดิม ๆ ไม่ผุ ให้มีสภาพแต่งแล้วเหมือนภาพข้างบนและข้างล่างนี่
ครับ... แล้วเจอกัน... W201 190E AMG




วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เป้าหมาย... แต่งให้เนี้ยบแบบนี้เลย...

       ได้ W124 E220 มาร่วมสี่เดือนนอกจากเปลี่ยนยางทั้งชุด แบตเตอรี่ใหม่ และของเหลวทั้งระบบแล้ว
ยังไม่ได้เปลี่ยนพาร์ทสำคัญ ๆ ของตัวรถเลย  ท้ายรถด้านหลังขวาติดป้าย Lorinser ยังไม่ทราบเลยว่า
พาร์ทไหนบ้างคือชุดแต่งของ Lorinser วันนี้ได้เจอภาพที่เป็นต้นตำหรับแล้ว พบว่าเจ้า E220 คันงาม
มีองค์ประกอบครบยกเว้นล้อแม็กซ์  งั้นภายในปีนี้เป้าหมายคือแต่งออกมาให้เนี้ยบเหมือนสองภาพนี้


วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กลับบ้าน...ทำหน้าที่ลูก...

8 เมษายน 2556 เริ่มว่างยาวจนถึง 20 เมษายน 2556 คงไม่มีอะไรสำคัญกว่าการได้กลับไปบ้าน
เพื่อกราบเท้าคุณพ่อ คุณแม่ และทำหน้าที่ลูกที่นาน ๆ จะมีโอกาสสักที  มีรถยนต์สองคันอายุ 9 เดือน
กับ 20 ปี เอาคันไหนกลับบ้านดีนี่  สาวน้อยก้าวเดือนใช้มาเกือบสามหมื่นกิโลเมตรแล้ว เธอควรได้พัก
แล้วจะเอาสาวใหญ่ 20 ขวบกลับระยะทางไปกลับเกือบสองพันกิโลเมตร แถมกินแก๊สโซฮอล์ 95 ด้วย
พอได้จนกันมั่งหละ  เอาหละอย่างไรก็ตามรับเธอมาดูแลสี่เดือนแล้ววิ่งไกลที่สุดแค่พระนครศรีอยุธยา
ไปกลับ 150 กิโลเมตร เธอยังวิ่งได้ดี หากวิ่งสองพันกิโลเมตรแล้วต้องใช้บริการรถลากหล่ะงานงอกแน่
เอาหละงอกเป็นงอก

ยางเพิ่งเปลี่ยนใหม่ด้วย Hankook 215-50-R17 ซื้อมาวิ่งแล้วนี่งัดจัดหนักไปเลย  ตั้งแต่ได้มาสี่เดือน
ไม่เคยเติมน้ำมันเต็มถังสักที เพราะเต็มถังก็ล่อเข้าไปสองพันบาทแล้ว  เป็นครั้งแรกที่ได้เติมน้ำมันเต็ม
ถัง รวม ๆ ของเดิมที่มีในถังจ่ายไปอีกเกือบ 1,700 บาท เป็นครั้งแรกด้วยที่รูดบัตรเครดิตในการเติม
น้ำมัน ไม่ลืมที่จะกดรีเซ็ทมีเตอร์ไปที่ 000 Km  ออกจากกรุงเทพ 16.30 น. ถึงบ้าน 01.00 น. ใน
คืนนั้น ระยะทาง 629 Km ใช้น้ำมันประมาณ 3/4 ถัง ทำความเร็วได้ดีมาก ๆ เลย เครื่องไม่ร้อนเกิน
80-100 องศา ถือว่าสอบผ่านนะจ้ะ W124 E220
ทางเข้าบ้านที่จากมา 20 ปี

จอดข้างทางถ่ายภาพ

มีต่อตอนที่ 2 ครับ



Reset ECU


ใช้รถมือสอง เมื่อได้รถมาแล้ว อยากแนะนำให้ทำการ " รีเซ็ท กล่อง ECU" เสียก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะความอัจฉริยะของ ECU จะจดจำเอาพฤติกรรมของเจ้าของรถคนก่อนเอาไว้รวมทั้งอา การเสีย
ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเอาไว้ ทำให้รถอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ และทำให้เราสับสนในการแก้ปัญหา
วินิจฉัยอาการผิดพลาดได้ การรีเซ็ทกล่องสามารถทำได้ด้วยตัวท่านเองตามขั้นตอนดังนี้

1.)เข้าไปในรถในตำแหน่งคนขับม ปิดประตูให้เรียบร้อย, บิดกุแจไปที่ตำหน่ง ON จนไฟบน
หน้าปัดติดทุกดวงแต่ไม่ต้องสตาร์ทเครื่อง

2.)กดคันเร่งจนสุดให้คิกดาวสวิทย์ทำงาน ค้างไว้ 15 วินาที เมื่อครบ 15 วินาทีแล้วยังกดคันเร่ง
ไว้จนสุด บิดกุญแจไปที่ OFF แต่ยังไม่ถอดกุญแจออก

3.)รอประมาณ 2-3 วินาที จึงปล่อยคันเร่ง

4.)จากนั้นรอประมาณ 2-3 นาทีจึงดึงกุญแจออก และออกจากรถ

เพียงเท่านี้ก็สามารรีเซ็ท กล่อง ECU ได้แล้ว ท่านจะได้กล่อง ECU เหมือนใหม่ที่เพิ่งออกจากโรงงาน
จากนี้ไปเมื่อ่ทานเริ่มใช้รถ ECU จะจดจำการขับรถของท่านและปรับให้การทำงานของเครื่องยนต์และ
เกียร์ให้เหมาะสมกับการขับขี่ของท่าน ปกติแล้วการจดจำพฤติกรรมการขับรถอยู่เสมอแต่จะใช้เวลานาน
กว่าจะนำมาปรับการทำงานของเครื่องยนต์ ทำให้บางครั้งเราเข้าใจว่ารถมีอาการผิดปกติ พอเอารถไป
เช็คจะไม่เจออะไรเสีย

การถอดสายแบตเตอรี่อาจจะสามารถรีเซ็ทค่าผิดพลาดที่กล่อง ECU ที่เกียวกับเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวได้ แต่ไม่สามารถรีเซ็ทค่าพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับเกียร์ได้ครับ

ที่มา  http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=20134

วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

แบตเตอรี่หมด

ล่องใต้อาทิตย์หนึ่งกลับมาบ้านลูกสาวตัวโต W124 E220 แบตเตอรี่ไฟหายเกลี้ยง ระบบไฟฟ้าไม่ทำงานสักอย่าง
ฝากระโปรงหลังไม่ล็อค เปิดประตูดู Central Lock เจ๊งหมดเลย  ต้องเอาเจ้าสาวน้อย Altis มาต่อสายพ่วง
แบตเตอรี่จึงกลับมาทำงานแต่ยังเก็บไฟไม่อยู่ 

ตรวจสอบดูแบตเตอรี่พบว่าถูกเปลี่ยนมาตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2552 นั่นมันสี่ปีที่แล้ว มันคงเสื่อมสภาพไปแล้ว
โพสสอบถามที่เว็บบอร์ด พี่ ๆ เขาตอบว่า อาจมีไฟรั่วร่วมด้วย เพราะแค่หนึ่งสัปดาห์ไฟหายเกลี้ยงขนาดนั้น
งานเข้าแล้วสงสัยโปรเจคหนี้เพิ่มอีกแล้ว  เมื่อวานพ่วงสายแบตสตาร์ทติดแล้วรีบบึ่งไป Cockpit จัดแบตเตอรี่
Din75 ขนาด 75 Amp/Hr หักราคาเทิร์นเหลือ 5000 บาทเน็ต ๆ เลือกเอาแบบปิดสนิทมาเพื่อลดไอระเหย
ของกรดกำมะถัน  เปลี่ยนแบตเตอรี่เสร็จทุกอย่างเหมือนเดิม สตาร์ทโป้งเดียวก็ชึ่งแล้ว.... ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มี
งานงอกเพิ่ม

รู้สึกพอใจกับการใช้ MB W124 E220 ตลอดระยะเวลาเกือบสี่เดือน  อนาคตอยากมีอีกสักคัน....

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ W124 E220

12 มกราคม 2556 หลังปีใหม่สามวัน ตรงกับวันเด็กพอดี เช้ามีสอบที่คณะวิศวกรรมศาสตร์
และสถาปัตยกรรมศาสตร์ บ่ายเลยถือโอกาสมารับสมาชิกใหม่ W124 E220 ปี 1994 ตาม
ที่นัดหมายกับเจ้าของเดิม ไปก่อนเวลาร่วมสองชั่วโมงเลยเรา  ตื่นเต้นนะ... เคยออกรถใหม่
มาแล้ว 5 คันไม่เห็นต้องตื่นเต้น หรือบ้าเห่ออย่างนี้เลย  กลับจากมหาวิทยาลัยเอารถคันเดิม
ไปจอดที่ที่พักลงทุนนั่งแท๊กซี่มาเพื่อจะขับรถคนใหม่กลับบ้านทีเดียวเชียวหละ  นั่งแท๊กซี่มา
ถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมงเหมือนที่บอก  ห่างจากสถานที่รับรถไปร้อยเมตรก็เป็นอู่ซ่อมเบนซ์
ที่เคยไปจ้างตอนไปดูรถ  อย่ากระนั้นเลยเดินไปทาบทาม ถามไถ่เรื่องราคาการดูแลบำรุงรักษา
เลยดีกว่า

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

เตรียมตัว.. เตรียมกระเป๋าสำหรับเบนซ์มือสอง

ปลายสัปดาห์นี้แล้วไฟแนนซ์นัดมาแล้วว่าผ่าน อืม... นี่เราพร้อมแล้วเหรอสำหรับเบนซ์รถหรู
(เมื่อ 19 ปีที่แล้ว) ถึงมือเราแล้วมือที่เท่าไหร่แล้วนะ  น่า...ตัดสินใจไปแล้วจะเป็น Mechanic
ตอนบั้นปลายชีวิตไม่ใช่เหรอ... งั้นมาเตรียมตัวกันเลย

วันนี้ได้โพสกระทู้ที่เว็บ www.benzowner.net เพื่อสอบถามกูรูรถหรูดาวสามแฉก ความว่า
"มือใหม่... ขอทราบประมาณการค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนถ่ายของเหลว

อาทิตย์นี้จะไปรับ W124 E220 ที่ด้อม ๆ มอง ๆ มานานมาเริ่มบทที่ 1 เลยสำหรับการใช้งาน
อยากเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบต้องเปลี่ยนอะไรบ้างค รับ ประมาณการรายจ่ายกี่มากน้อย
จะได้เตรียมตัวได้ถูก เคยใช้แต่รถญี่ปุ่นครับ ได้ขับเบนซ์ก็ตอนจะซื้อเขานี่แหละ (ขอชื่อยี่ห้อ
ด้วยนะครับทั้งชื่อของเหลว และวัสดุที่ใช้พร้อม ๆ กัน)

ขอบคุณครับ "

สักพักใหญ่ก็ได้คำตอบ พี่เขาใจดีมาก.... นี่คือคอตอบครับ

"น้ำมันเครื่อง เบอร์ xxW-40 ใช้ 6 ลิตร (หรือ 1.5 แกลลอน) ยี่ห้ออะไรก็ได้ ที่คุณชอบ เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องด้วย (ประมาณ 3 - 4 ร้อย)
- ถ้าเลือก กึ่งสังเคราะห์ (semi blend หรือ semi synthetic) เปลี่ยนถ่ายทุก 6 - 7 พัน กม. แกลลอนละ 4 - 5 ร้อย
- ถ้าเลือก สังเคราะห์ 100% (fully synthetic) เปลี่ยนถ่ายทุก 1 หมื่น กม. แกลลอนละ 1.5 - 2 พัน

น้ำมันเกียร์ ใช้เกือบ 7 ลิตร เปลี่ยนพร้อมไส้กรอง (6-7 ร้อย), ซีลยางรองขอบอ่างน้ำมันเกียร์อีก 3 ร้อย
- ยี่ห้อ Benz ดี และ แพง ลิตรละประมาณ 5 - 6 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 3 - 3.5 หมื่น กม.
- ยี่ห้อ Shell, Caltex, Esso, Vavoline ฯลฯ แบบธรรมดา ลิตรละประมาณ 2 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 2 หมื่น กม.

น้ำมันเพาเวอร์ ประมาณ 0.5 ลิตร เปลี่ยนพร้อมไส้กรอง (1-2 ร้อย) ใช้น้ำมันเกียร์ออโต้ ได้

น้ำมันเฟืองท้าย ประมาณ 1 ลิตรกว่าๆ
- ยี่ห้อ Benz ดี และ แพง ลิตรละประมาณ 6 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 3 - 3.5 หมื่น กม.
- ยี่ห้อ Shell, Caltex, Esso, Vavoline ฯลฯ เบอร์ xx-W90 GL-5 Hypoid ลิตรละประมาณ 2 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 2 หมื่น กม.

น้ำมันเบรค ประมาณ 0.5 ลิตร แบบ DOT4 เปลี่ยนถ่ายทุก 4 - 5 หมื่นโล ยี่ห้อ Benz หรือ Ate

เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็น พร้อมเติมน้ำยาของ Benz 1 กระป๋อง ประมาณ 5 ร้อย เปลี่ยนถ่ายทุก 5 หมื่นโล

แถม

กรองอากาศ 6 - 7 ร้อย
หัวเทียน Bosch F8DC หัวละ 7 - 8 สิบ
สายพาน เส้นละ 7 - 8 ร้อย
กรองเบนซิน 5 - 6 ร้อย

ตรวจเช็ค แบตเตอรี่, ผ้าเบรค, ยาง, ลูกหมาก, บุชยางช่วงล่าง, ยางหุ้มเพลา, คันชัก-คันส่ง, ตั้งศูนย์ล้อ, พัดลมระบายความร้อน, น้ำยาแอร์, ยางใบปัดน้ำมัน, หลอดไฟท้าย, หลอดไฟหน้า, หลอดไฟเลี้ยว"

ที่มา  http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=59739

งั้นเสาร์นี้เจอกัน W124 E220. Here I come.

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

ผ่านแล้วหนี้โปรเจค

ผ่านไปอย่างสมบูรณ์กับการทำสัญญาซื้อขายเพื่อแลกกับการเป็นเจ้าของเบนซ์มือสองที่อยากจะได้
ถามว่าจำเป็นไหม ก็คงตอบแบบพร้อมรับคำด่าว่า "ไม่จำเป็น" ไม่จำเป็นแล้วซื้อทำไม  นั่นสิ..ตอบ
แบบด่าได้ต่อว่า ... ก็อยากได้อ่ะ

ขับรถญี่ปุ่นโดนอุบัติเหตุนิดหน่อยแล้วยุบเพราะมันไฟเบอร์กลาสทั้งนั้น ไม่ใช่เหล็ก ไฟเบอร์กลาส
เวลาบิดเบี้ยวแล้วดูไม่ได้เลย  นี่เหรอรถที่ฝากชีวิตไว้   หากเป็นเหล็กเยอรมันแข็ง ๆ มันคงทำให้
ใจชื้นขึ้นมาบ้าง คงคุ้มแหละกับการซื้อความปลอดภัยมากขึ้นอีกนิดเมื่ออยู่บนท้องถนน 350,000
บาท คงไม่แพงเกินไปนักกับความปลอดภัย และสมรรถนะของพาหนะที่ใช้งานตั้งแต่ไก่โห่ ขับตอน
ง่วง สลึมสลือ ก้อ...ชีวิตฉัน..อ่ะ  เห็นแก่ตัว...เสียงใครสักคนที่กำลังกระแทกเสียงใส่..ทน..ทนฟัง
ไป

เอาหล่ะ...อย่างน้อยก็มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นหนึ่งรายการ มองในแง่ดีไว้ ขับเบนซ์ไปทำงาน กับอาชีพ
ที่เป็นอย่างน้อยก็ภาพพจน์ (good will) คงเพิ่มได้มั่งกับหน้าตาที่ไม่มีความประทับใจแรกพบที่
ปรากฎบนใบหน้าอันน้อยนิด

อย่างไรก็ตามอีก 7 วันเจอกัน W124 E220