ศุกร์ที่แล้ว 29 กันยายน 2560 ออกจากดอนเมืองเช้ามืด เป้าหมายคือไปรับเจ้า W124 E220 ที่จอดมาสี่ปีมาซ่อมบำรุง อาการที่เป็นอยู่คือเครื่องสั่น เร่งไม่ขึ้น เกียร์ไม่เปลี่ยน น้ำมันสักอย่างรั่วใต้ท้อง แอร์ไม่เย็น และวิ่งได้ไมาเกิน 80 KPH เดือนที่ผ่านมาแบตเตอรี่หมดซื้อใหม่ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ก็เลยจำเป็นต้องรับมาดูแล
ถึงบ้าน 10.00 น. กราบพ่อแม่แล้วนั่งที่บ้านครึ่งชั่วโมงต้องรีบขับมากรุงเทพ กะว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรก็จะเหมารถสไลด์บรรทุกมาให้ถึงกรุงเทพ เดชะบุญยังมีขับมาได้ด้วยความเร็ว 80-120 KPH ใช้เวลาไป 10 ชั่วโมงเต็ม
วันนี้ก็เลยขับไปวิทยาลัยที่เรียนวิชา ช่างยนต์แก๊สโซลีนอยู่ ไปตั้งแต่ตีห้า เพราะกลัวว่าจะไปดับกีดขวางการจราจรวันจันทร์อันจอแจ ถึงโรงเรียนโดยไม่งอแง แต่พอจะถอยเข้าจอดเท่านั้นแหละ ดับแล้วดับอีกจนอายผู้คน เก้าโมงอาจารย์มาถึงก็เลยหาสาเหตุว่าทำไมเครื่องสั่น เดินไม่เต็มสูบ ไม่มีกำลัง ปัญหาก้อตกมาอยู่ที่สายหัวเทียนสูบที่สี่ ดับสนิท ไม่มีไฟมาเลี้ยงหัวเทียน ไม่มีการจัดระเบิดเกิดขึ้น เท่านั้นแหละรายจ่ายก็เริ่มเกิด เดินตากฝนมานั่งรถเมล์ไปย่านวัดโสมมนัสวรวิหารแหล่วงรวมอะไหล่เบนซ์ เพื่อซื้อสายหัวเทียน (Ignition Cables) เขาขายยกชุด 4 เส้น ได้ยี่ห้อนี้มา
ไปร้านแรกคนขายบอก 1,700 บาท ขาดตัว เลยทำใจร่ม ๆ เดินไปหาตู้ ATM ถอนตังค์ก่อน มาถามอีกร้านยี่ห้อเดียวกันบอกราคา 1,500 บาท ขอต่อราคาเขาลดให้ 1,450 บาท ร้านห่างกัน 50 เมตร ราคาต่างกัน 250 บาท กลับมาแล้วเปลี่ยน อาการที่เป็นมาตลอดสามปีหายเป็นปลิดทิ้ง สี่ปีก่อน Overhaul ไป 80,000 บาท เขาไม่เปลี่ยนให้หรือนี่ ายเดิมคงจะเปื่อยยุ่ยแล้ว สำหรับสายหัสเทียนจะมีค่าความต้านทานที่ผลิตจากโรงงานประมาณ 2k Ohm ลองวัดความต้านทานสายที่เปลี่ยนออกมีความต้านทานเพิ่มขึ้นถึง 200-400 k Ohm แม่เจ้ามันคงร้อนน่าดู แต่ที่ไม่สามัคคีกันก่อประกายไฟ
เปลี่ยนสายใหม่ไปสี่เส้น ก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ไปพร้อมกัน
เปลี่ยนแล้วก็โล่งไป ได้ทดสอบว่าอาการแบบนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง
ปัญหาต่อไปก็คือ Air Compressor..... คงเรื่องยาวอีก ตอนนี้ก็ขับรถรถร้อนแข่งรถเมล์ร้อนไปก่อน จนกว่าจะหาอะไหล่เจอ