วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เตรียมอะไหล่... กลับไปกู้ชีพรถแสนรัก

       คราวที่แล้วเขียนว่าว่าง ๆ หลังจากเรียนช่างยนต์ไปสี่คอร์ส สองโรงเรียน จบโดยไม่เอาใบประกาศทั้งสองที่ เนื่องจากภาระงานนั่นแหละ แม้จะเข้าเรียนไม่ครบแต่ตำหรับตำราหามาเป็นหอบ วิชาละอย่างน้อย 2 ชื่อเรื่อง ทบทวนจาก YouTube ถามท่านผู้รู้ตอนนี้ก็เลยเริ่มสะสมเครื่องมือและอะไหล่ไปลงมือกู้ชีพเอง  วันนี้ว่างจากเรียนช่างยนต์เลยกลับถิ่นเก่า คือ โรงพยาบาลกลาง นั่นคือคลองถม และวรจักร  คว้าอะไหล่มาดังภาพ


        จากภาพเป็นอะไหล่ 3 ตัวที่จะต้องไปเปลี่ยนใหม่
        อันแรกคือกรองน้ำมันเกียร์ ปะเก็นขอบอ่างน้ำมันเกียร์ เรื่องของเรื่องก็คือ หลัง Overhaul ไปได้สามเดือน เริ่มมีน้ำมันเครื่องหยดลงได้ท้องรถ มุดเข้าไปดูนึกว่าเป็นน้ำมันเครื่องรั่วตามประสาคนที่เป็นแต่ขับไม่ทราบรายละเอียดเครื่องยนต์ ตรวจ Dip stick เห็นน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติก็ขับต่อใช้งานบ้างบางโอกาส น้ำมันก็รั่วมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเริ่มพบปัญหาคือ เกียร์วิ่งได้เพียงเกียร์สาม  ที่สำคัญเครื่องสั่นเหมือนเดินไม่เต็ม 4 สูบ  ด้วยภาวะทางเศรษฐกิจ และมีรถเล็กใช้งานอยู่เลยจอดสนืทมาครบ 4 ปี แล้ว  แต่เครื่องยังสตาร์ทติดดี สักพักใหญ่ ๆ ก็เริ่มสั่น  มานึกได้ตอนมาเรียนช่างยนต์ทั้งในวิชาเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องล่างรถยนต์ และเครื่องยนต์แก๊สโซลีนหัวฉีดจึงถึงบางอ้อว่า... น้ำมันที่หยดลงมาน่ะคือน้ำมันเกียร์... เพราะมันไหลต่อเนื่อง เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ และไม่เคยตรวจระดับน้ำมันเกียร์เลย เพราะไม่ทราบจริง ๆ ว่า Dip stick น้ำมันเกียร์มันอยู่ตรงไหน ... นี่เป็นความโง่ล้วน ๆ ไม่มีอย่างอื่นปน 5555... (หรือว่าความเร็วไม่ถึงจึงไม่เปลี่ยน เพราะสักพักเครื่องสั่น) ...เป็นไปได้ร้อยแปดปัญหาเลย  ดังนั้นจึงจะลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ตรวจสอบการรั่ว อีกอย่างของเดิมมันอายุ 3 4 ปีแล้ว

        อันที่สองก็คือกรองน้ำมันเครื่อง แม้ว่าระดับมันปกติดี แต่อายุ 4 ปี ต้องเปลี่ยน (ทำไปได้ สี่ปีไม่เปลี่ยน ก็มันไม่ได้ใช้นี่นา)

        อันที่สามก็คือหัวเทียน ของที่ถูกที่สุดแต่สำคัญที่สุดเช่นกัน เปลี่ยนครับได้เวลา

        อันสุดท้ายที่กำลังหาข้อมูลคือ Tool Scan OBDI เครื่องยนต์ตอนนี้ใช้ OBDII กันแล้ว จะจัดหาพร้อมสายที่ Convert สัญญาณได้  จะจัดก่อนกลับแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

โครงการกู้ชีพ W124 E220

        หลังจากรับโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์แล้ว รถแสนรักก็ยังจอดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 5 ผ่านการซ่อมใหญ่มา 1 ครั้ง นั่นคือ การ Overhaul หลังจากทำมาหมดเงินไปเกือบ 90,000 บาท มีน้ำมันรั่วใต้ท้อง เครื่องสั่น หมดงบบูรณะจำเป็นต้องจอด เข็ดไปอีกนาน

        เพื่อจะแก้ปัญหาที่เริ่มต้นไว้เบื้องต้น เลยต้องหาทางแก้ปัญหา นั่นก็คือลงมือซ่อมเองซะเลย  ลงทุนไปเรียนช่างยนต์ซะทีเดียว 3 วิชา หลักสูตร 200 ชั่วโมง  นั่นคือหลักสูตร
            * เครื่องยนต์ดีเซล
            * เครื่องล่างรถยนต์
            * เครื่องยนต์แก๊สโซลีนหัวฉีด
        โดยได้ศึกษาที่ โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (หนองจอก)

        เท่านั้นยังไม่พอสมัครเรียนอีก 2 วิชา คือ งานไฟฟ้ารถยนต์ และงานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน  แถมอีกวิชาหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับช่างยนต์ คือกีตาร์คลาสสิก

       ทั้งหมดเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อกู้ชีพรถแสนรักที่ซื้อจากน้ำพักน้ำแรง  ตอนนี้ก็กำลังซื้ออะไหล่ และเครื่องมือที่จำเป็นสะสมไว้  คาดว่าโครงการรี้จะลงมือทำปลายเดือนสิงหาคม 2560 นี้แน่นอน