วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

เตรียมตัว.. เตรียมกระเป๋าสำหรับเบนซ์มือสอง

ปลายสัปดาห์นี้แล้วไฟแนนซ์นัดมาแล้วว่าผ่าน อืม... นี่เราพร้อมแล้วเหรอสำหรับเบนซ์รถหรู
(เมื่อ 19 ปีที่แล้ว) ถึงมือเราแล้วมือที่เท่าไหร่แล้วนะ  น่า...ตัดสินใจไปแล้วจะเป็น Mechanic
ตอนบั้นปลายชีวิตไม่ใช่เหรอ... งั้นมาเตรียมตัวกันเลย

วันนี้ได้โพสกระทู้ที่เว็บ www.benzowner.net เพื่อสอบถามกูรูรถหรูดาวสามแฉก ความว่า
"มือใหม่... ขอทราบประมาณการค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนถ่ายของเหลว

อาทิตย์นี้จะไปรับ W124 E220 ที่ด้อม ๆ มอง ๆ มานานมาเริ่มบทที่ 1 เลยสำหรับการใช้งาน
อยากเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบต้องเปลี่ยนอะไรบ้างค รับ ประมาณการรายจ่ายกี่มากน้อย
จะได้เตรียมตัวได้ถูก เคยใช้แต่รถญี่ปุ่นครับ ได้ขับเบนซ์ก็ตอนจะซื้อเขานี่แหละ (ขอชื่อยี่ห้อ
ด้วยนะครับทั้งชื่อของเหลว และวัสดุที่ใช้พร้อม ๆ กัน)

ขอบคุณครับ "

สักพักใหญ่ก็ได้คำตอบ พี่เขาใจดีมาก.... นี่คือคอตอบครับ

"น้ำมันเครื่อง เบอร์ xxW-40 ใช้ 6 ลิตร (หรือ 1.5 แกลลอน) ยี่ห้ออะไรก็ได้ ที่คุณชอบ เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องด้วย (ประมาณ 3 - 4 ร้อย)
- ถ้าเลือก กึ่งสังเคราะห์ (semi blend หรือ semi synthetic) เปลี่ยนถ่ายทุก 6 - 7 พัน กม. แกลลอนละ 4 - 5 ร้อย
- ถ้าเลือก สังเคราะห์ 100% (fully synthetic) เปลี่ยนถ่ายทุก 1 หมื่น กม. แกลลอนละ 1.5 - 2 พัน

น้ำมันเกียร์ ใช้เกือบ 7 ลิตร เปลี่ยนพร้อมไส้กรอง (6-7 ร้อย), ซีลยางรองขอบอ่างน้ำมันเกียร์อีก 3 ร้อย
- ยี่ห้อ Benz ดี และ แพง ลิตรละประมาณ 5 - 6 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 3 - 3.5 หมื่น กม.
- ยี่ห้อ Shell, Caltex, Esso, Vavoline ฯลฯ แบบธรรมดา ลิตรละประมาณ 2 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 2 หมื่น กม.

น้ำมันเพาเวอร์ ประมาณ 0.5 ลิตร เปลี่ยนพร้อมไส้กรอง (1-2 ร้อย) ใช้น้ำมันเกียร์ออโต้ ได้

น้ำมันเฟืองท้าย ประมาณ 1 ลิตรกว่าๆ
- ยี่ห้อ Benz ดี และ แพง ลิตรละประมาณ 6 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 3 - 3.5 หมื่น กม.
- ยี่ห้อ Shell, Caltex, Esso, Vavoline ฯลฯ เบอร์ xx-W90 GL-5 Hypoid ลิตรละประมาณ 2 ร้อยบาท เปลี่ยนถ่ายทุก 2 หมื่น กม.

น้ำมันเบรค ประมาณ 0.5 ลิตร แบบ DOT4 เปลี่ยนถ่ายทุก 4 - 5 หมื่นโล ยี่ห้อ Benz หรือ Ate

เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็น พร้อมเติมน้ำยาของ Benz 1 กระป๋อง ประมาณ 5 ร้อย เปลี่ยนถ่ายทุก 5 หมื่นโล

แถม

กรองอากาศ 6 - 7 ร้อย
หัวเทียน Bosch F8DC หัวละ 7 - 8 สิบ
สายพาน เส้นละ 7 - 8 ร้อย
กรองเบนซิน 5 - 6 ร้อย

ตรวจเช็ค แบตเตอรี่, ผ้าเบรค, ยาง, ลูกหมาก, บุชยางช่วงล่าง, ยางหุ้มเพลา, คันชัก-คันส่ง, ตั้งศูนย์ล้อ, พัดลมระบายความร้อน, น้ำยาแอร์, ยางใบปัดน้ำมัน, หลอดไฟท้าย, หลอดไฟหน้า, หลอดไฟเลี้ยว"

ที่มา  http://www.benzowner.net/forum/showthread.php?t=59739

งั้นเสาร์นี้เจอกัน W124 E220. Here I come.

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

ผ่านแล้วหนี้โปรเจค

ผ่านไปอย่างสมบูรณ์กับการทำสัญญาซื้อขายเพื่อแลกกับการเป็นเจ้าของเบนซ์มือสองที่อยากจะได้
ถามว่าจำเป็นไหม ก็คงตอบแบบพร้อมรับคำด่าว่า "ไม่จำเป็น" ไม่จำเป็นแล้วซื้อทำไม  นั่นสิ..ตอบ
แบบด่าได้ต่อว่า ... ก็อยากได้อ่ะ

ขับรถญี่ปุ่นโดนอุบัติเหตุนิดหน่อยแล้วยุบเพราะมันไฟเบอร์กลาสทั้งนั้น ไม่ใช่เหล็ก ไฟเบอร์กลาส
เวลาบิดเบี้ยวแล้วดูไม่ได้เลย  นี่เหรอรถที่ฝากชีวิตไว้   หากเป็นเหล็กเยอรมันแข็ง ๆ มันคงทำให้
ใจชื้นขึ้นมาบ้าง คงคุ้มแหละกับการซื้อความปลอดภัยมากขึ้นอีกนิดเมื่ออยู่บนท้องถนน 350,000
บาท คงไม่แพงเกินไปนักกับความปลอดภัย และสมรรถนะของพาหนะที่ใช้งานตั้งแต่ไก่โห่ ขับตอน
ง่วง สลึมสลือ ก้อ...ชีวิตฉัน..อ่ะ  เห็นแก่ตัว...เสียงใครสักคนที่กำลังกระแทกเสียงใส่..ทน..ทนฟัง
ไป

เอาหล่ะ...อย่างน้อยก็มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นหนึ่งรายการ มองในแง่ดีไว้ ขับเบนซ์ไปทำงาน กับอาชีพ
ที่เป็นอย่างน้อยก็ภาพพจน์ (good will) คงเพิ่มได้มั่งกับหน้าตาที่ไม่มีความประทับใจแรกพบที่
ปรากฎบนใบหน้าอันน้อยนิด

อย่างไรก็ตามอีก 7 วันเจอกัน W124 E220